นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV)
|
บริษัท บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (ต่อไปนี้เรียกว่า “บริษัทฯ”) โดยมีการติดตั้งและใช้อุปกรณ์กล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ในการเฝ้าดูแลพื้นที่ภายในและโดยรอบสถานที่ อาคาร เพื่อคุ้มครองชีวิต สุขภาพ และทรัพย์สินของผู้ติดต่อ บุคลากรในบริษัทฯ ผู้รับเหมา พนักงาน หรือบุคคลใดๆ ทั้งหมดที่เข้ามาในพื้นที่ที่มีการเฝ้าดูแลภายในอาคารและสถานที่ผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (เรียกรวมกันว่า “ท่าน”) ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทฯ มีหน้าที่ตามกฎหมายในการชี้แจงเอกสารฉบับนี้ให้ท่านทราบถึงเหตุผลและวิธีการที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงแจ้งให้ท่านทราบถึงสิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ บริษัทฯ ยืนยันว่าได้ดำเนินการตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน |
วัตถุประสงค์ |
เพื่อเป็นเอกสารแนวทางชี้แจงให้ผู้เข้ารับบริการผู้ติดต่อ บุคลากรในบริษัทฯ ผู้รับเหมา พนักงาน หรือบุคคลใดๆ ทั้งหมดที่เข้ามาในพื้นที่ที่มีการเฝ้าดูแลภายในอาคารและสถานที่ผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ทราบถึงเหตุผลและวิธีการที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน |
ขอบข่าย |
ขอบข่ายทุกพื้นที่ที่มีการเข้าดูแลภายในอาคารและสถานที่ผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด |
คำนิยาม |
กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล |
พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 และที่จะมีการแก้ไขเพิ่มเติม รวมถึงกฎ ระเบียบ และคำสั่งที่เกี่ยวข้อง |
|
ข้อมูลส่วนบุคคล |
ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือ ทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ |
|
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล |
เจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับการแต่งตั้งโดยผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 |
|
ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล |
บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งมีอำนาจตัดสินใจเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ |
|
ผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล |
บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล |
|
ผู้รับผิดชอบ |
แผนกเทคโนโลยีและสารสนเทศ |
วิธีปฏิบัติ |
1. นโยบายฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อชี้แจงรายละเอียดการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงวิธีการในการปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและแนวทางการจัดการข้อมูลดังกล่าวอย่างเหมาะสม โดยบริษัทฯอาจดำเนินการปรับปรุงหรือแก้ไขนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดเป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางการดำเนินงานของบริษัทฯ และหลักเกณฑ์ของกฎหมายที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้น ท่านจึงควรติดตามรายละเอียดนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่กำหนดนี้อยู่เสมอ อย่างไรก็ดี บริษัทฯ จะเผยแพร่การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในหน้าเว็บไซต์ของบริษัทฯ และในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญ บริษัทฯ จะแจ้งให้ท่านทราบ |
2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมจากท่าน |
3. ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ มีการจัดเก็บ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ถูกเก็บรวบรวมและประมวลผลภายใต้นโยบายฉบับนี้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯโดยตรง หรือข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ ได้รับมาจากบุคคลภายนอกหรือบริษัทฯได้รับมาจากแหล่งที่มาอื่น สามารถจำแนกเป็นประเภทดังต่อไปนี้ |
ข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ได้แก่ บันทึกภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวของท่าน รูปภาพ เสียง และภาพสิ่งของ เช่น ทรัพย์สิน ยานพาหนะ ทะเบียนรถยนต์ หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่สามารถระบุตัวตนบุคคลได้ เมื่อท่านเข้าสู่พื้นที่ที่มีการสอดส่องดูแลภายในอาคารและสถานที่ผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิดของบริษัทฯ |
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว ได้แก่ ข้อมูลชีวภาพ เช่น ข้อมูลการจดจำใบหน้า (Face Scan/ Face Recognition) ข้อมูลการจดจำเสียง เป็นต้น |
4. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล |
บริษัทฯ เก็บรวบรวมภาพนิ่ง ภาพเคลื่อนไหวของท่าน และภาพสิ่งของ หรือข้อมูลอื่น ๆ ที่สามารถระบุตัวตนบุคคลได้ เมื่อท่านเข้าสู่พื้นที่ที่มีการสอดส่องดูแลภายในอาคารและสถานที่ผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ในบางกรณีบริษัทฯ อาจจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลอ่อนไหวของท่าน (เช่น การภาพสแกนใบหน้า (Face Scan/ Face Recognition) ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากท่าน หรือกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้เท่านั้น |
5. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน |
บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นต่อการดำเนินงานของบริษัทฯ เท่านั้น โดยบริษัทฯ ได้สรุปการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน พร้อมทั้งอธิบายฐานการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ชอบด้วยกฎหมาย ดังนี้ |
5.1 วัตถุประสงค์ที่บริษัทฯ ดำเนินการโดยอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทฯ อาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งได้แก่ |
(5.1.1) ฐานการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย |
(5.2.2) ฐานการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทหรือของบุคคลภายนอก เพื่อให้สมดุลกับประโยชน์และสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน |
(5.3.3) ฐานการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล |
(5.4.4) ฐานการขอความยินยอมกรณีเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นข้อมูลอ่อนไหว |
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (5.1.1) ถึง (5.4.4) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้ |
5.2 เพื่อการตรวจสอบและการรักษาความปลอดภัยภายในบริเวณอาคารหรือสถานที่ของบริษัทฯ และการประเมินความเสี่ยงด้านความปลอดภัย รวมถึงการเข้าและออกเพื่อปฏิบัติงานในสถานที่ของบริษัทฯ การแลกบัตรเข้าออกอาคารหรือสถานที่ของบริษัทฯ และการบันทึกข้อมูลการเข้าออกสถานที่ของบริษัทฯ และการบันทึกภาพภายในอาคารหรือสำนักงาน หรือบริเวณพื้นที่โดยรอบด้วยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) |
5.3 เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่พนักงาน ผู้ใช้บริการ และบุคคลอื่นที่เข้ามาภายในอาคารและสถานที่ รวมถึงการดูแลทรัพย์สินของบริษัทไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องสามารถเข้าออกเขตหวงห้าม |
5.4 เพื่อปกป้องสุขภาพและความปลอดภัย รวมถึงทรัพย์สินของท่าน |
5.5 เพื่อปกป้องอาคาร สถานที่ และทรัพย์สินจากความเสียหาย ความขัดข้อง การทำลายทรัพย์สิน และอาชญากรรมอื่นๆ |
5.6 เพื่อสนับสนุนหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายในการขัดขวาง ป้องกัน และตรวจจับอาชญากรรม รวมถึงการฟ้องร้องเมื่อเกิดอาชญากรรม |
5.7 เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายตามที่หน่วยงานรัฐที่มีอำนาจตามกฎหมายร้องขอ หรือใช้เพื่อเป็นพยานหลักฐานกรณีเกิดเหตุอาชญากรรม หรืออุบัติเหตุที่เกิดขึ้นภายในหรือบริเวณอาคารและสถานที่ |
5.8 เพื่อช่วยเหลือในกระบวนการระงับข้อพิพาทที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ |
5.9 เพื่อช่วยเหลือในการสอบสวนหรือกระบวนพิจารณาที่เกี่ยวข้องกับการแจ้งเบาะแส |
5.10 เพื่อสนับสนุนในการก่อตั้งสิทธิหรือยกขึ้นเป็นข้อต่อสู้ในการดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ คดีทางแพ่ง และคดีแรงงาน |
5.11 เพื่อการกระทำการอื่นใดเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดตามที่ได้ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ |
ทั้งนี้ บริษัทฯ จะติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในบริเวณที่ท่านสามารถเห็นได้ง่าย และจะติดตั้งป้ายแจ้ง “สถานที่นี้ติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เพื่อเฝ้าระวังความปลอดภัย” ที่จุดทางเข้าและทางออก และในพื้นที่ที่มีการสอดส่องดูแลโดยกล้องโทรทัศน์วงจรปิด เพื่อให้ท่านทราบว่าในบริเวณนั้นมีกล้องโทรทัศน์วงจรปิด |
6.การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล |
บริษัทฯ จะเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้หลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดและตามวัตถุประสงค์ที่ได้มีการแจ้งไว้แก่บุคคลหรือหน่วยงาน ดังนี้ |
6.1 บริษัทฯ จะเก็บข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่เกี่ยวข้องกับท่านไว้เป็นความลับ และจะไม่เปิดเผยหรือโอนข้อมูลดังกล่าวให้แก่ผู้ใด ยกเว้น หน่วยงานหรือบุคคลภายนอกเท่าที่จำเป็นเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และฐานตามกฎหมายในการประมวลผลที่ได้แจ้งเท่านั้น เช่น พนักงานและบริษัทที่ว่าจ้างให้ดำเนินการเกี่ยวกับกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและรักษาความปลอดภัย โดยจะทำหน้าที่เป็นผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เป็นต้น |
6.2 หน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจในการขอข้อมูลส่วนบุคคล เช่น สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการ ศาล เป็นต้น หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่มีอำนาจในการขอข้อมูลส่วนบุคคล เช่น พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการ เป็นต้น และอาจเป็นการเปิดเผยให้หน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีของบริษัทฯ เองด้วย |
6.3 บริษัทฯ อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดไปยังบุคคลภายนอกที่อยู่นอกประเทศไทย เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนที่จำเป็นในการปกป้องความปลอดภัยต่อชีวิต และทรัพย์สินของท่าน โดยหากเป็นกรณีที่บริษัทฯ ต้องขอความยินยอมจากท่านสำหรับการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ บริษัทฯ จะดำเนินการขอความยินยอมจากท่านก่อน และบริษัทฯ จะดำเนินการตรวจสอบว่าประเทศปลายทาง องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด |
6.4 บุคคลที่ร้องข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด โดยบริษัทฯ จะคำนึงถึงการรักษาความลับเป็นสำคัญ บุคคลที่ร้องขอจะต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่บริษัทฯ กำหนด และอาจต้องมีการแสดงเอกสารหรือหลักฐานเพื่อยืนยันต่อบริษัทฯทั้งนี้บริษัทฯ จะพิจารณาการเปิดเผยข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่เกี่ยวข้องกับท่านให้กับบุคคลที่ร้องขอเป็นรายกรณี |
7. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล |
บริษัทฯ จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งต่อท่านหรือจัดเก็บตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หรือตามอายุความ หรือเพื่อการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาการจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว หรือเมื่อบริษัทฯ ไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายให้เก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดอีกต่อไป หรือบริษัทฯ หมดความจำเป็นในการเก็บรวบรวมต่อไป บริษัทฯ จะทำการลบข้อมูลออกจากระบบและบันทึกของบริษัทฯ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคล หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ |
8. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล |
ในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามขอบเขตที่กฎหมายอนุญาตให้กระทำได้ ดังนี้ |
8.1 ในกรณีที่ท่านประสงค์จะทราบหรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของบริษัทฯ หรือขอให้บริษัทฯ เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลที่ท่านไม่ได้ให้ความยินยอม ท่านสามารถมีคำร้องขอตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่บริษัทฯ กำหนด |
8.2 ในกรณีที่ท่านเห็นว่าข้อมูลส่วนบุคคลใดที่เกี่ยวกับตนไม่ถูกต้อง ไม่เป็นปัจจุบัน ไม่สมบูรณ์ หรืออาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิด ท่านสามารถขอให้บริษัทฯ ดำเนินการแก้ไขเพื่อให้ข้อมูลถูกต้อง เป็นปัจจุบันสมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้ โดยทำคำร้องขอต่อบริษัทฯ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่บริษัทฯ กำหนด ในกรณีที่บริษัทฯไม่ดำเนินการตามคำร้องขอของท่าน บริษัทฯ จะจัดทำบันทึกคำร้องขอของท่าน พร้อมด้วยเหตุผลไว้เป็นหลักฐานเพื่อให้ท่านสามารถตรวจสอบได้ |
8.3 ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนจากบริษัทฯได้ ในกรณีที่บริษัทฯ ได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่าน หรือ ใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือ หรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น เมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ หรือขอรับข้อมูลที่บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่สภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้ |
8.4 ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตนเมื่อใดก็ได้ ในกรณีดังต่อไปนี้ |
8.4.1 กรณีที่เป็นข้อมูลที่เก็บรวบรวมได้ด้วยเหตุจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของบริษัทฯ หรือ เหตุจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทฯ เว้นแต่ บริษัทฯ แสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า หรือ เป็นไปเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตาม หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย |
8.4.2 กรณีที่เป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง |
8.4.3 กรณีที่เป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่การจำเป็นเพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของ |
8.4.4 ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ลบ หรือ ทำลาย หรือ ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีดังต่อไปนี้ |
8.4.4.1 เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย |
8.4.4.2 เมื่อท่านคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตาม และบริษัทฯ ไม่อาจปฏิเสธคำขอคัดค้าน หรือเป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง |
8.4.4.3 เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลได้ถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย |
8.4.5 ท่านมีสิทธิขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ ในกรณีดังต่อไปนี้ |
8.4.5.1 เมื่อบริษัทฯ อยู่ในระหว่างการตรวจสอบตามที่ท่านร้องขอให้ดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ หรือไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด |
8.4.5.2 เมื่อเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ต้องลบหรือทำลาย เพราะเป็นข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ท่านขอให้ระงับการใช้แทน |
8.4.5.3 เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล แต่ท่านมีความจำเป็นต้องขอให้เก็บรักษาไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิตามกฎหมาย การปฏิบัติตาม หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือ การยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย |
8.4.5.4 เมื่อบริษัทฯ อยู่ในระหว่างการพิสูจน์ให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า หรือการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตาม หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย ในกรณีที่ท่านใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูล |
8.4.6 บริษัทฯ หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งลูกจ้างหรือผู้รับจ้างของบริษัทฯ หรือผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือประกาศที่ออกตามกฎหมายดังกล่าวได้ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิในการพิจารณาคำร้องขอใช้สิทธิดังกล่าวและดำเนินการตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด |
9. มาตรการความมั่นคงปลอดภัยในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล |
บริษัทฯ จะจัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ มาตรการป้องกันด้านเทคนิค และมาตรการป้องกันทางกายภาพในเรื่องการเข้าถึงหรือควบคุมการใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล อันประกอบไปด้วยการดำเนินการดังต่อไปนี้ เป็นอย่างน้อย |
9.1 การควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและอุปกรณ์ในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลโดยคำนึงถึงการใช้งานและความมั่นคงปลอดภัย โดยบริษัทฯ จะจัดการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลด้วยมาตรการไม่น้อยกว่าระดับที่กฎหมายกำหนด และด้วยระบบที่เหมาะสม เพื่อป้องกันและรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลนั้น เช่น ใช้โปรโตคอลความปลอดภัย (Secure Sockets Layer: SSL) ปกป้องด้วยไฟร์วอลล์ รหัสผ่าน และมาตรการทางเทคนิคอื่นๆ สำหรับการเข้ารหัสข้อมูลผ่านทางอินเตอร์เน็ต และจัดเก็บในสถานที่ที่มีระบบป้องกันการเข้าถึงที่จำกัดบุคคลที่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่ในรูปแบบเอกสารได้ |
9.2 การกำหนดเกี่ยวกับการอนุญาตหรือกำหนดสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล โดยบริษัทฯ จะจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลไม่ว่าที่จัดเก็บในระบบอินเทอร์เน็ต ระบบโปรแกรมใด ๆ หรือในรูปแบบเอกสารไว้เฉพาะบุคลากร ที่มีความจำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ |
9.3 การบริหารจัดการการเข้าถึงของผู้ใช้งานเพื่อควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลเฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาตแล้ว |
9.4 การกำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ใช้งานเพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต การเปิดเผย หรือการลักลอบทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือการลักขโมยอุปกรณ์จัดเก็บหรือข้อมูลส่วนบุคคล |
9.5 การจัดให้มีวิธีการเพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง ลบ หรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคล ให้สอดคล้องเหมาะสมกับวิธีการและสื่อที่ใช้ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล |
10. การทบทวนและเปลี่ยนแปลงนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล |
บริษัทอาจทำการปรับปรุงหรือแก้ไขนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราวเพื่อให้สออดคล้องกับข้อกำหนดตามกฎหมายการเปลี่ยนแปลงการดำเนินการของบริษัทฯ รวมถึงข้อเสนอแนะและความคิดเห็นจากหน่วยงานต่างๆโดยบริษัทฯ จะประกาศแจ้งการเปลี่ยนแปลงให้ทราบอย่างชัดเจน |
11. ช่องทางการติดต่อ |
บริษัท บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) |
เลขที่ 594 หมู่ที่ 4 ตำบลมะขามคู่ อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง 21180 |
โทรศัพท์ 033-017-345-7 |
อิเมล์ dpooffice@bjc1994.com |